การสอบ TOEFL แบบ IBT

การสอบ TOEFL แบบ IBT

เป็นการสอบทักษะภาษาอังกฤษแบบบูรณาการ เป็นการสอบที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษทั้งการพูด ฟัง อ่าน และเขียนในการสอบ โดยการสอบในแต่ละส่วนจะเชื่อมโยงกันทั้งหมด ผู้สอบต้องตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด เพราะหมายความว่าเราเราจะตอบ พูด หรือเขียนไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังตั้งแต่แรก

การสอบแบบใหม่ช่วยลบจุดด้อยของนักศึกษาต่างชาติบางคนที่ได้คะแนนสอบดี แต่ไม่สามารถสื่อสาร นำเสนองานผ่านการพูดจาเป็นภาษาอังกฤษได้ดีอย่างที่ควรเป็น การสอบครั้งใหม่นี้จึงเหมือนการจำลองการเข้าไปศึกษาจริงในสถาบันการศึกษา ต่างๆ ที่อาจารย์ผู้สอนได้พูดถึงบทเรียนต่างๆ และการให้การบ้านเพื่อให้ทำรายงาน และนำเสนอต่อหน้าอาจารย์ เรียกว่าการสอนในระบบใหม่นี้ ไม่ได้ใช้เพียงทักษะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น ในการสอบแต่ละส่วนแต่การสอบในแต่ละส่วนในส่วนต้องใช้ทักษะอื่นด้วย เช่น การสอบเขียน ต้องฟังสิ่งสิ่งที่เขาพูด หรือสิ่งที่เขาให้มาตั้งแต่เริ่มสอบจนเข้าใจเสียก่อนที่จะเขียนตอบได้ ไม่ใช่ให้เขียนตามโจทย์ที่ให้มาแบบ Essay ในแบบเดิมอีก ซึ่งระบบใหม่ทำให้รับรู้ถึงทักษะทางภาษาอังกฤษของแต่ละคนอย่างแท้จริง

สำหรับการสอบ TOEFL แบบ IBT จะใช้เวลาสอบประมาณ 4 ชั่วโมง โดยเน้นการวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการ เพื่อใช้ความรู้ทางภาษาไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับสูง โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 4 ทักษะ ดังนี้

Reading
เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจของการอ่านในเชิงวิชาการของผู้สอบ โดยผู้สอบต้องตอบคำถามจากบทความ 3 บทความ ในแต่ละบทจะต้องตอบคำถาม 12-15 ข้อ ส่วนนี้ต้องทำข้อสอบรวม 39ข้อใช้เวลา 60 นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30คะแนน

Listening
เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ผู้สอบต้องฟังบทสนทนาในประเด็นทั่วไป 2 เรื่อง และ สถานการณ์จำลองในห้องเรียน 4 เรื่อง ต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้ยินแต่ละบทสนทนา และเรื่องที่ได้ฟัง โดยส่วนนี้ต้องทำข้อสอบ 35 ข้อใช้เวลา 60 นาที

Writing
เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการเขียนในเชิงวิชาการ โดยผู้สอบต้องแสดงความสามารถในการใช้ภาษา และการคิดวิเคราะห์ การพัฒนาความคิดในประเด็นที่ได้อ่านจากข้อสอบ 2 ข้อใช้เวลา 55 นาที

Speaking
เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการพูดภาษาอังกฤษเนื้อหาเชิงวิชาการ ผู้สอบต้องตอบคำถามด้วยการพูด รวม 6 ข้อ หลังจากอ่านบทความ และการฟังบรรยายในแต่ละประเด็นข้อสอบใช้เวลา 20นาที ระดับ คะแนนจะอยู่ที่ 0-30คะแนนข้อสอบ

ข้อมูลจาก : เวปไซด์ TSL

ข้อสอบtoefl

LISTENING COMPREHENSION: PART A: QUESTIONS 1-30: SHORT CONVERSATIONS

ON THIS PART OF THE PBT, YOU WILL HEAR 30 SHORT CONVERSATIONS. LISTEN CAREFULLY TO THE SPEAKERS.

LISTENING PART A. MEANING QUESTIONS.

EX.1

Man: I've heard that the new Chemistry class is really difficult.

Woman: Oh, I wouldn't say that. I took Chemistry 402 last quarter, and I think the course went very smoothly.

Narrator: What does the woman mean?

(A) The chemistry class is very tough.

(B) The chemistry class is not teaching this quarter.
(C) The chemistry class is easier than the man thinks.
(D) The chemistry class should be avoided if possible.

"Oh, I wouldn't say that" indicates that the woman disagrees with the man. The best answer is C.

EX.2

Woman: I've heard great things about that movie that just came out. You want to go see it tonight?


Man: I'd love to, but I've got a history final in two days, and I haven't studied all quarter. I think I'd better take a rain check this time.

Narrator: What does the man mean?

(A) He needs to take a break from his studying.
(B) He loves the woman very much.
(C) He doesn't like going out in the rain.
(D) He will not be able to accompany the woman.

"I'd better take a rain check this time" means that the person "cannot do the activity." The correct answer is D.

EX.3

Woman: The bus isn't supposed to arrive at this stop for another 30 minutes. I guess we'll just have to wait until it comes.

Man: Normally I'd agree with you, but I'm only going to the next stop, and I feel like stretching my legs.

Narrator: What does the man mean?

(A) He is going to wait for the bus.
(B) He is going to wait for thirty minutes only.
(C) He is going to walk to his destination.
(D) He injured his legs and will return home.

"I feel like stretching my legs" means that the man "feels like walking." The correct answer is C.

EX.4

Man: How did you feel about the movie?

Woman: I was really moved by the performances. What did you think?

Man: I found them uneven: strong in some scenes, weak in others.

Narrator: What does the man mean?

(A) He has never seen a better movie.
(B) He thought the acting lacked consistency.
(C) He doesn't think the actors performed well.
(D) He had already seen the movie.

"Uneven" means "inconsistent"; the correct answer is B.

EX.5

Woman: It's burning up in here. When is the technician supposed to arrive?

Man: I called the company over an hour ago. They said she was on her way.

Woman: Yea, but the last time it took days for them to send someone out.

Man: You're right, it's anybody's guess when she'll show up.

Narrator: What do these people mean?

(A) She will come at any moment.
(B) She should arrive soon.
(C) There's no way to know when she'll arrive.
(D) They thought she would already have arrived.

"It's anybody's guess" means that there is "no way to know exactly when" the person will arrive. The correct answer is C.

[Skip To Grammar Review 1]

LISTENING PART A. IMPLICATION QUESTIONS.

EX.6

Woman: The milk in the refrigerator is sour. I don't think it's drinkable.

Man: No joke. The expiration date was three weeks ago.


Narrator: What does the man imply?

(A) The woman has an extremely sour disposition.

(B) They need to replace the refrigerator.

(C) The woman is just kidding.
(D) It's not surprising the milk has ruined.

EX.7

Man: It looks like Jane is coming apart at the seams. I think she should seek psychological help.

Woman: Oh, I wouldn't say that. She seems to be coping with her problems reasonably well.

Narrator: What does the woman imply?

(A) Jane is not losing emotional control.
(B) Jane is more intelligent than she seems.
(C) Jane made an excellent copy of the parts.
(D) Jane wouldn't say that.




Answers: Ex.6: D, Ex. 7: A

Friday, April 18, 2008

TOEFL คือ

TOEFL คือ แบบทดสอบความสามารถ ในการใช้ภาษาอังกฤษ ของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาประจำชาติ โดยที่ จะจัดการสอบเป็นแบบปรนัย เพื่อวัดความเข้าใจ ภาษาอังกฤษ (แบบอเมริกาเหนือ) ปัจจุบันการสอบ TOEFL ได้เปลี่ยนมาใช้การทดสอบแบบ Computer - Based Testing แทนการทดสอบแบบ Paper test โดย เชื่อว่าวิธีนี้ จะสามารถวัดระดับ ความรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียน ได้ถูกต้อง ใกล้เคียงความเป็นจริง มากกว่าการสอบแบบเดิม (Paper - Based Test) และไม่เป็นปัญหาอุปสรรค สำหรับผู้สอบ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ ในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์มาก่อน เนื่องจาก ETS จะให้ผู้สอบทุกคน ได้ฝึกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer - Based Tutorial) ก่อน และ ใช้ CD ROM ทดลองทำก่อนการสอบจริง ซึ่งการทดสอบแบบ Computer - Based Testing จะแบ่งแบบทดสอบออกเป็นสี่ส่วน ซึ่งใช้เวลาประมาณ สามชั่วโมงครึ่งถึงสี่ชั่วโมง โดยแต่ละส่วน จะกำหนดจำนวนคำถาม พร้อมระยะเวลาในการใช้ทำแบบทดสอบไว้ดังนี้

เวลาที่ใช้ในการสอบแต่ละส่วน และจำนวนคำถาม

การเตรียมตัว (Tutorials) ไม่จำกัดเวลา แต่ทั้งนี้ไม่ควรจะนานมาก เพราะว่า เวลารวมทั้งสิ้นต้องไม่เกิน สี่ชั่วโมง เป็นการฝึกใช้คอมพิวเตอร์ในการสอบ ทางที่ดีควรจะฝึกซ้อมมาก่อน

การฟัง(Listening) ทดสอบทักษะการฟังภาษาอังกฤษแบบอเมริกาเหนือ ใช้เวลา40-60 นาที จำนวน 30-50 ข้อ

ไวยากรณ์ (Structure) 15-20 นาที จำนวน 20-25 ข้อ

จากนั้นพัก 5 นาที

การอ่าน (Reading) ทดสอบความเข้าใจในการอ่านเรื่องสั้นๆ ใช้เวลา 70-90 นาที จำนวน 44-55 ข้อ

การเขียน (Writing) ทดสอบความสามารถในการเขียนความเรียงในหัวข้อที่กำหนดให้ หนึ่งหัวข้อ ในเวลา 30 นาที

ลักษณะคำถาม

ส่วนใหญ่แล้วเป็นแบบปรนัย หรือ มีคำตอบให้เลือกตอบ แต่ปัจจุบันมีคำถามลักษณะใหม่ๆ ออกมาค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น คำถามที่ให้เลือกภาพในการตอบ หรืออาจเป็นคำถามที่มีหลายคำตอบ หรือ ให้เรียงลำดับสิ่งของ หรือ จับคู่ให้เป็นหมวดหมู่

สมัครสอบได้ที่ไหน อย่างไร

สำหรับประเทศไทย สามารถติดต่อ Institute of International Education (IIE) ชั้น 9 ตึกซิตี้แบงค์ 82 ถ.สาทรเหนือ บางรัก กทม. 10500 โทร. 639-2700-2 E-mail : iiethai@bkk.iie.org ผู้สนใจสมัครสอบควรทำการสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับสถานที่สอบ และวันเวลาที่สอบที่แน่นอน


ซึ่งทำได้โดยการ โทรศัพท์ปรึกษา จดหมาย อีเมล์ หรือ แฟกซ์ เพื่อขอรับ คู่มือ คลิกที่นี่ และใบสมัครสอบ คลิกที่นี่ กรอกแบบฟอร์ม แล้วส่งไปยัง iie พร้อมกับ เงิน 110 ดอลลาร์ สหรัฐ ซึ่งชำระด้วย ดราฟท์ (Bank Draft) เท่านั้น

สอบเมื่อไหร่

มีการสอบตลอดทั้งปี แต่ว่า ต้องสมัครอย่างน้อย สามวันก่อน วันที่ เลือกสอบ และสามารถสอบได้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น เดือนที่มีการสอบมากที่สุดคือ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม เมษายน และ พฤษภาคม หากสมัครแล้ว ต้องการยกเลิกการสอบในครั้งนั้น ผู้สมัครจะได้รับเงินคือ 65 ดอลลาร์สหรัฐ โดยการกรอกแบบฟอร์มขอคืนเงิน สามารถดาวน์โหลด ได้ที่นี่

เมื่อสอบแล้วต้องการยกเลิกคะแนนสอบในครั้งนั้น สามารถทำได้ เพียงแต่ให้รอสอบใหม่ในเดือนต่อไป

หลักฐานสำคัญในการเข้าห้องสอบ


บัตรประจำตัวผู้สอบ ที่ติดรูปมาเรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญต้องติดด้วยกาว หรือ เทปใส เท่านั้น หากไม่ได้รับบัตรประจำตัวสอบ ควรจด รหัส สถานศึกษาที่ต้องการให้จัดส่งใบแจ้งผลการสอบ และหลักฐานที่ออก โดยทางราชการ ที่สามารถแสดงได้ว่าเราคือผู้เข้าสอบ อาทิ พาสปอร์ต หรือ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ บัตรประจำตัวพนักงานหรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ จดหมายรับรองตามที่ ETS กำหนดรูปแบบไว้


กฎ ระเบียบและขั้นตอนในการสอบ


สำหรับขั้นตอนการปฏิบัติ ของการสอบนั้น แต่ละศูนย์สอบ จะมีขั้นตอนที่เหมือนกัน เพื่อความยุติธรรม สำหรับผู้เข้าสอบทุกท่าน โดยที่ทุกแห่ง จะมีมาตรฐานเดียวกันหมด ซึ่งเป็นดังต่อไปนี้


1. ผู้คุมสอบ หรือเจ้าหน้าที่ จะเป็นผู้กำหนดที่นั่งสอบ ให้แก่ผู้สอบ โดยผู้สอบ จะไม่มีสิทธิ์เลือกที่นั่งสอบเอง


2. ผู้สอบจะต้องถึงสถานที่สอบ ไม่เกินเวลาที่ระบุไว้ ในบัตรประจำตัวผู้สอบ เพราะหลังจากที่เจ้าหน้าที่ ได้ส่งแบบทดสอบเข้ามาใน Computer แล้ว จะไม่ได้รับอนุญาต ให้เข้าสอบโดยเด็ดขาด


3. ก่อนจะเข้าสอบต้องมาลงทะเบียน กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่หน้าห้องก่อน โดยการป้อนข้อมูลส่วนตัว รวมทั้งรหัสผ่านให้ถูกต้อง และถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน เพราะฉะนั้น จะไม่มีการให้ใครมาสอบแทนได้


หลังจากที่ ได้เข้าห้องสอบแล้ว จะไม่สามารถออกจากห้องสอบได้อีก และเมื่อการสอบสิ้นสุดลง ต้องนั่งอยู่กับที่ จนกว่าผู้คุมสอบ จะอนุญาต ให้ออกจากห้องสอบได้


4. ในระหว่างการสอบ TOEFL จะไม่มีการหยุดพัก แต่จะมีช่วง Break ให้พักผ่อน 5 นาที นอกจากช่วง Break


ถ้าผู้เข้าสอบไม่ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบที่ผู้คุมสอบ ได้แจ้งให้ทราบก่อนการสอบ อาจจะถูกไล่ออกจากห้องสอบ หรือถูกยกเลิกคะแนนสอบได้


5. ทางผู้จัดสอบจะไม่ทำการตรวจให้คะแนน สำหรับการสอบ TOEFL และจะไม่คืนค่าสอบ ให้แก่ผู้ใดในกรณีต่อไปนี้


- การพยายามเข้าสอบแทนผู้อื่น


- ได้รับการช่วยเหลือ หรือให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้เข้าสอบท่านอื่น


- ไม่ปฏิบัติตามที่ผู้คุมสอบแนะนำ


- อ่านและทำข้อสอบในส่วนอื่น ในขณะที่อนุญาตให้ทำอีกส่วนหนึ่ง หรือพยายามจะทำ ข้อสอบต่อเมื่อหมดเวลาแล้ว


- นำพจนานุกรม สมุดจด หนังสือ เศษกระดาษ นาฬิกาปลุก โทรศัพท์มือถือ เพจเจอร์ เครื่องช่วยฟัง หรืออุปกรณ์ถ่ายภาพใด ๆ เข้าห้องสอบ


- นำบุหรี่ หมากฝรั่ง ลูกอม อาหาร และเครื่องดื่มเข้ามาในห้องสอบ


- ออกจากห้องสอบโดยไม่ได้รับอนุญาติ


- ทำการจดคำถาม หรือคำตอบหรือคัดลอกสมุดคำถาม


- พยายามโกงการสอบไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม
การฟัง Listening 0-30


ไวยากรณ์ และ การเขียน Structure/Writing 0-30


การอ่าน Reading 0-30


คะแนน รวม Total 0-300


คะแนนความเรียง Essay แบ่งเป็นเจ็ดระดับ คือ 0-6


ข้อสอบจะเพิ่มการสอบ Writing


ข้อแตกต่างระหว่างการสอบแบบ CAT และ CBT


จากที่เคยมีเพียงการสอบ Listening, Structure & Grammar, Reading Comprehension และผู้สอบมีสิทธิ์เลือกที่จะสอบ TWE หรือไม่สอบก็ได้นั้น จะเปลี่ยนเป็นการสอบ Listening, Structure & Grammar, Reading Comprehension และการสอบเขียน Essay โดยไม่มีการเลือก ทั้งนี้การทำข้อสอบในส่วน Listening และ Structure & Grammar จะใช้ Computer Adaptive Test (CAT ) คือ เมื่อผู้สอบ ตอบคำถามแต่ละข้อแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนคำตอบ หรือแก้ไข ได้ต้องทำข้อสอบข้อต่อไป แต่การทำข้อสอบในส่วน Reading Comprehension จะใช้ Linear Test คือผู้สอบสามารถ เปลี่ยนหรือ แก้ไขคำตอบได้


การสอบแบบ CAT

เป็นการสอบแบบ Adaptive ความยากง่ายของคำถามต่อ ไป ที่จะเจอ จะขึ้นอยู่กับ ความสามารถของผู้เข้าสอบในการทำข้อสอบในช่วงแรก ถ้าหากตอบคำถาม ได้ถูกต้องเป็นจำนวนมาก ข้อสอบก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ แต่หาก ทำผิดจำนวนมาก ข้อต่อ ไปจะได้รับการปรับเอง และจะเป็นข้อสอบที่ง่ายขึ้น จนถึงระดับที่ผู้สอบ สามารถตอบคำถาม ในระดับง่ายได้ถูกต้อง ระบบ CAT ก็จะเปลี่ยน ให้เป็นข้อสอบที่ยากขึ้นอีกครั้ง
การสอบแบบ CAt


เป็นการสอบแบบ Adaptive ความยากง่ายของคำถามต่อ ไป ที่จะเจอ จะขึ้นอยู่กับ ความสามารถของผู้เข้าสอบในการทำข้อสอบในช่วงแรก ถ้าหากตอบคำถาม ได้ถูกต้องเป็นจำนวนมาก ข้อสอบก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ แต่หาก ทำผิดจำนวนมาก ข้อต่อ ไปจะได้รับการปรับเอง และจะเป็นข้อสอบที่ง่ายขึ้น จนถึงระดับที่ผู้สอบ สามารถตอบคำถาม ในระดับง่ายได้ถูกต้อง ระบบ CAT ก็จะเปลี่ยน ให้เป็นข้อสอบที่ยากขึ้นอีกครั้ง


ข้อดีของการสอบแบบ CAT


1. ผู้สอบสามารถสมัครสอบ ที่ศูนย์สอบใดก็ได้ ในเวลาใดก็ได้ ถ้าเป็นการสอบแบบเก่า จะสอบได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นวันเสาร์เท่านั้น


2. ผู้สอบ ไม่จำเป็นต้องมีทักษะ ทางคอมพิวเตอร์มากนัก เพราะก่อนการสอบ จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ และสอนเทคนิคการใช้คอมพิวเตอร์ ในการทำข้อสอบ


3. มีเวลาทำข้อสอบได้นานกว่าระบบเก่า


4. ความสำเร็จของการทำข้อสอบในระบบ CAT ขึ้นอยู่กับ ความสม่ำเสมอ ในการทำข้อสอบช่วงแรก เพราะไม่สามารถข้ามการทำข้อสอบ ในบางข้อได้


5. สามารถทราบผลได้ทันที และหากไม่พอใจกับการทำข้อสอบก็สามารถยกเลิกการทำข้อสอบ ครั้งนั้น ได้ และสามารถสอบได้ใหม่ในเวลา 60 วัน เมื่อเทียบกับระบบเก่า อาจจะต้องรอผลการสอบถึง 60 วัน กว่าจะรู้ผล


6.รายงานผลคะแนน ของระบบใหม่ จะส่งไปถึงสถาบันการศึกษา ได้เร็วกว่าระบบเดิม

ผลสอบ TOEFL สามารถใช้ได้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เข้าสอบเท่านั้น

ข้อควรจำ
1. การเขียนชื่อ - นามสกุล ต้องสะกดชื่อ นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ ให้เหมือนกับในหลักฐานแสดงตัว โดยที่ใช้นามสกุลขึ้นต้นก่อน ตามด้วยชื่อจริง และจะต้องสะกดตามนี้ ทุกครั้งที่กรอกรายละเอียดลงบน ใบสมัคร

เมื่อต้องการเขียนจดหมาย ส่งแฟกซ์ ส่งอี-เมล์ หรือการติดต่อ กับ ETS ซึ่งเป็นผู้จัดสอบ


2. โดยปรกติแล้ว สถานที่จัดสอบ จะเต็มอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ควรจะเตรียมส่งใบสมัครสอบ พร้อมกับการชำระค่าสอบล่วงหน้า อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนถึงวัน Deadline และควรจะใช้ใบสมัครสอบ ที่ทาง ETS จัดเตรียมไว้ให้ใน คู่มือการสมัคร เพราะ จะไม่สามารถไปสมัครสอบที่สนามสอบได้


3. หลังจากที่สมัครสอบไปแล้ว ผู้สอบจะไม่ได้รับใบเสร็จรับเงิน สำหรับการชำระค่าสอบ เพราะจะได้รับบัตรประจำตัวผู้สอบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นใบเสร็จรับเงิน สำหรับการสอบอยู่แล้ว


4. ควรจะทำการทดสอบ ให้เร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อจะมั่นใจได้ว่า คะแนนสอบ จะถูกส่งถึงวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยที่ระบุไว้ ทันกำหนดปิดรับสมัคร


5. ใบรับสมัครสอบ TOEFL ไม่ใช่ใบสมัครเรียน ในสถาบันต่าง ๆ ดังนั้น เราจะต้องส่งใบสมัครต่างหาก ไปยังสถานศึกษาที่สนใจ


6. คะแนนสอบ ที่มีอายุมากกว่า 2 ปี ทาง ETS ไม่สามารถให้การรับรองได้ และจะไม่จัดส่งคะแนนสอบ ที่มีอายุเกิน 2 ปีให้แก่สถานศึกษาใดๆ


7. หลักฐานแสดงตัวในวันสอบ เป็นสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นมาก เมื่อไปถึงสถานที่สอบ โปรดแน่ใจว่า ไม่ได้ลืมหลักฐานเหล่านั้น ตามที่ระบุไว้ บนบัตรประจำตัวสอบ หากไม่มีหลักฐานจะไม่ได้รับอนุญาต ให้เข้า


8. ต้องเตรียมรูปถ่าย ที่เห็นหน้าและไหล่ได้ชัดเจน เพื่อที่จะติดรูปไว้ที่บัตรประจำตัวผู้สอบ (Admission Ticket)


9. ไม่ควรจะไปรายงานตัวที่สนามสอบ หลังจากเวลาที่ระบุไว้ ในบัตรสอบ



ทดลองทำข้อสอบ TOEFL แบบ ออนไลน์ ได้ที่



*** เว็บไซต์ petersons.com



*** ผลสอบ TOEFL สามารถใช้ได้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เข้าสอบเท่านั้น
ผู้เขียน: wimma
http://www.vcharkarn.com/varticle/6/5

No comments: